วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559

วิธีตีคอร์ด (strum) สำหรับคนหัดเล่นกีตาร์


อย่างแรกเลย เรามาทำความเข้าใจสัญลักษณ์กันก่อน จะได้อ่าน strumming pattern ที่นำมาฝากได้นะคะ รูป ลูกศรลงคือจังหวะที่ตีคอร์ดลง รูปลูกศรขึ้นก็คือจังหวะที่ตีคอร์ดขึ้น และ pattern เริ่มต้นจะเป็นสำหรับเพลง 4/4 เพราะฉะนั้น ให้นับจังหวะตามนี้ค่ะ “หนึ่ง สอง สาม สี่” จังหวะไหนจะต้องตีขึ้น หรือ จังหวะไหนต้องตีลง จะมีตัวเลขกำกับด้านล่างแต่ละลูกศรค่ะ
Pattern ที่ 1, 2 และ 3 ด้านบนนี้ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นเล่นกีตาร์ค่ะ ยังไม่คุ้นเคยกับการนับจังหวะใดๆ เลย ให้ลองฝึกนับจังหวะให้คล่องก่อน โดยยังไม่ต้องสนใจมือซ้ายว่าจะต้องกดคอร์ดอะไรนะคะ โดยใช้มือซ้าย mute เอาสายไว้ แล้วฝึกนับจับหวะไปพร้อมๆ กับการตีมือขวาขึ้นลงให้ถูกจังหวะก่อนค่ะ Pattern แรกก็จะตีลงทั้งสี่ครั้ง ตามจังหวะที่นับ 1 2 3 4 ส่วน pattern ที่สอง ก็คล้ายๆ กัน แต่จะเป็นการตีขึ้นทั้งสี่ครั้ง ทีนี้ก่อนที่เพื่อนๆ จะขยับไป pattern ที่สาม อยากให้ลองฟังเสียงที่ออกมาให้แน่ใจก่อนว่า เวลาที่เราดีดสายกีตาร์ เราดีดครบทุกสายโดยเสียงที่ออกมาดังเท่ากันค่ะ
ใครที่ใช้ปิ๊กและรู้สึกว่าเสียงมันดังและก็ทื่อๆ เกินไป เวลาที่เราตีลง ให้บิดข้อมือเหมือนเวลาที่เราจะหงายมือขึ้นเล็กน้อย (บิดไปทางขวา)  ส่วนเวลาตีขึ้นก็ให้บิดข้อมือไปทางตรงข้ามเหมือนเรากำลังจะคว่ำมือ (บิดไปทางซ้าย) ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ปิ๊กกีตาร์ตั้งฉากกับสายกีตาร์และก็กระทบกันแรงเกินไปค่ะ  ทีนี้ ..​ลองตี pattern ที่สามดูค่ะ จะเข้าใจแล้วก็คุ้นเคยกับการขยับข้อมือมากขึ้น
Pattern ที่ 4 เราจะเริ่มเพิ่มดีกรีความยากขึ้นมาเล็กน้อย โดยการแบ่งหนึ่งจังหวะเต็ม ออกเป็น “ครึ่งจังหวะ” โดยจะมีสัญลักษณ์ “&” เพิ่มเข้าไปต่อท้ายตัวเลข (& ให้อ่านออกเสียงว่า “และ”) ดังนั้น 1 & 2 & 3 & 4 & เวลาอ่านออกเสียง ให้อ่านว่า “หนึ่ง และ สอง และ สาม และ สี่ และ” จังหวะ “และ” จะเป็นจังหวะยก นั่นคือให้ตีขึ้นค่ะ ส่วนจังหวะที่เป็นตัวเลขคือ จังหวะตก ก็คือให้ตีลงค่ะ ทีนี้เพื่อนๆ ลองนับจังหวะและ strum ตาม pattern 4 นี้ให้คล่อง โดยที่มือซ้ายยังไม่ต้องกดคอร์ดเหมือนเดิมค่ะ
 
สำหรับคนที่เริ่มคล่องแล้ว มาลองฝึก pattern การ strum ควบคู่ไปกับการกดคอร์ดจริงๆ ดูค่ะ แน่นอนว่าเราจะเริ่มจากคอร์ดง่ายๆ ก่อน เซ็ทคอร์ดที่แนะนำนะคะ ยกตัวอย่างเช่น C - F - G - C  หรือเซ็ทที่สอง G - C - D - G  หรือเซ็ทที่สาม  A - D - E - A  ก็ได้ค่ะ จะได้เป็นการฝึกฝนการเปลี่ยนคอร์ดให้ทันกับจังหวะไปในตัวด้วย :)
Pattern ต่อไปนี้ จะได้ใช้เยอะมาก เรียกได้ว่าเป็น strumming pattern หากินเลยทีเดียว เหมาะกับเล่นกับเพลงป๊อปที่จังหวะไม่ช้า ไม่เร็วมาก เช่นเพลงคิดมาก ของ ปาล์มมี่, เพลงจูบ" ของ Jetset'er, หรือเพลงLOVE ของ Paradox เป็นต้นค่ะ
วิธีฝึกนะคะ  จาก pattern 4 ที่เรานับ "หนึ่ง และ สอง และ สาม และ สี่ และ" พยายามให้คงจังหวะเท่าเดิม แต่คราวนี้ให้ออกเสียงเฉพาะจังหวะที่จะมีการ strum ตามนี้ค่ะ "หนึ่ง สอง และ และ สี่" ใครที่มี metronome ก็เอามาเคาะให้จังหวะด้วยก็ดีค่ะ จะได้จับจังหวะได้ง่ายขึ้น ส่วนใครที่ไม่มีและยังจับจังหวะไม่ได้ ให้ลองนับจังหวะไปพร้อมกับการปรบมือค่ะ จังหวะที่เราออกเสียงนับ "ตัวเลข" จะตรงกับจังหวะที่เราปรบมือเข้าหากัน ส่วนจังหวะที่ออกเสียง "และ" ก็จะตรงกับจังหวะที่มือเราแยกออกจากกันค่ะ  ทดลองดูนะคะ ส่วนใครที่คล่องแล้ว ก็ไปเล่นเข้ากับเพลงได้เลยค่ะ



 
Strumming pattern แบบที่ 6 อันนี้จะคล้ายๆ กับแบบที่ 5 จะเห็นได้ว่ามีเพิ่มตรงจังหวะ หนึ่ง "และ" เข้ามาแค่นั้น เพราะฉะนั้นใครที่เล่นแบบที่ห้าคล่องแล้ว แบบที่หกนี้ก็ไม่ยากแล้วหล่ะค่ะ แต่ว่าสิ่งที่อยากให้ฝึกเพิ่มเติมก็คือ ให้ฝึกเน้นจังหวะไปด้วย โดยจังหวะที่ต้องสตรัมดังขึ้นก็คือจังหวะตกที่ สอง กับ สี่ค่ะ ตามรูปเลย 


ทีนี่ใครที่สตรัมคล่องแล้วก็ลองไปฝึกเข้าเพลงตามลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น